KUBET thailand -ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. เตรียมพร้อมรับมือ-แนะแนวทางป้องกันต้นกำเนิดรังสีจากน้ำท่วมฉับพลัน
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท. เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ ปส.อว. ได้ออกข้อแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันต้นกำเนิดรังสีจากผลกระทบของน้ำท่วมฉับพลัน โดยได้เน้นย้ำให้หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานประกอบการทางรังสี เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่มีการใช้เครื่องกำเนิดรังสีหรือวัสดุกัมมันตรังสี เตรียมการรับมืออย่างเป็นระบบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี (RSO) ร่วมเฝ้าระวังป้องกันความปลอดภัยของต้นกำเนิดรังสีที่อาจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัย หากสงสัยว่าจะมีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี หรือพบเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี โปรดแจ้งมายัง สายด่วน 1296 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
โดยมีข้อพึงปฏิบัติด้านความปลอดภัยของต้นกำเนิดรังสี ได้แก่
ข้อแนะนำการเตรียมการก่อนน้ำท่วมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับต้นกำเนิดรังสี ดังนี้1. กรณีต้นกำเนิดรังสีประเภทที่สามารถถอดหรือเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย ให้ดำเนินการในเบื้องต้นดังนี้
- กรณีต้นกำเนิดรังสีประเภทที่สามารถถอดหรือเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย ให้ดำเนินการในเบื้องต้นดังนี้
1.1 ปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบควบคุมต้นกำเนิดรังสี หรือปิดล็อกภาชนะบรรจุและสำรวจ ค่าระดับรังสีที่พื้นผิวภาชนะบรรจุต้นกำเนิดรังสีเพื่อยืนยันอุปกรณ์เปิดปิดลำรังสี (Shutter) ถูกปิดโดยสมบูรณ์
1.2 เคลื่อนย้าย/ถอด/นำภาชนะบรรจุไปเก็บไว้ในพื้นที่ควบคุมหรือในพื้นที่ (เฉพาะ) ที่สามารถป้องกันน้ำท่วมและป้องกันการโจรกรรมได้
1.3 สำรวจค่าระดับรังสีที่ภาชนะบรรจุต้นกำเนิดรังสี (เฉพาะวัสดุกัมมันตรังสี) ค่าระดับรังสีโดยรอบสถานที่จัดเก็บและจัดให้เป็นพื้นที่ควบคุม และติดป้ายเตือนและสัญลักษณ์ทางรังสีแสดงไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายควรอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสีของหน่วยงานและมีการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้สำหรับการย้ายกลับคืนเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ เช่น วันที่ย้าย สถานที่จัดเก็บ ค่าระดับรังสี เป็นต้น และควรนำเครื่องสำรวจรังสีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปจัดเก็บในพื้นที่พ้นจากอุทกภัยด้วย
- กรณีต้นกำเนิดรังสีประเภทที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ควรมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับต้นกำเนิดรังสีดังนี้
2.1 ปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าหรือเข้าระบบควบคุมต้นกำเนิดรังสี หรือปิดล็อกภาชนะบรรจุและสำรวจค่าระดับรังสีโดยรอบเพื่อยืนยัน Shutter ถูกปิดโดยสมบูรณ์
2.2 ป้องกันพื้นที่จัดเก็บเครื่องกำเนิดรังสี หรือ วัสดุกัมมันตรังสี โดยอาจใช้กระสอบทรายกั้นไม่ให้น้ำเข้าถึง
ข้อแนะนำสำหรับการใช้งานต้นกำเนิดรังสีภายหลังน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติ
- เครื่องกำเนิดรังสี
1.1 ตรวจสอบสภาพเครื่องกำเนิดรังสีว่าไม่ได้รับผลกระทบทั้งภายในและภายนอกจากเหตุน้ำท่วม ให้ตรวจสอบสภาพระบบไฟฟ้าภายในอาคาร หากปกติจึงจะสามารถติดตั้งเครื่องกำเนิดรังสีได้
1.2 ทดสอบการใช้งานเครื่องกำเนิดรังสี และตรวจวัดระดับรังสีว่าอยู่ในระดับที่เคยตรวจวัดได้ ในกรณีที่ระดับรังสีสูงกว่าระดับที่เคยตรวจวัดไว้ เครี่องกำเนิดรังสีอาจเกิดความเสียหายในระหว่างเคลื่อนย้ายได้
1.3 หากพบว่าระดับรังสีสูงกว่าที่เคยตรวจวัดได้ ให้หยุดการใช้งานเครื่องกำเนิดรังสี และให้แจ้งบริษัทตัวแทนจำหน่าย เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องฯ
1.4 บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมปรับปรุงแก้ไข หรือ เพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต
หมายเหตุ: เครื่องกำเนิดรังสีที่ถูกน้ำท่วมหรือพบความเสียหาย ต้องได้รับตรวจสอบความปลอดภัยจากบริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทตัวแทนผู้ผลิตหรือหน่วยงานที่ ปส. รับรอง ก่อนการใช้งาน
- วัสดุกัมมันตรังสีชนิดปิดผนึก
2.1 ให้ตรวจสอบระดับรังสีและการเปื้อนโดยรอบต้นกำเนิดรังสี เทียบกับระดับรังสีก่อนที่มีการหยุดใช้งาน กรณีที่พบระดับรังสีสูงกว่าระดับที่บันทึกไว้หรือพบการเปื้อนทางรังสี (เกินกว่าสามเท่าของรังสีพื้นหลัง) ให้หยุดการใช้งานและให้กั้นบริเวณโดยรอบ (< 10 uSv/Hr) แจ้งตัวแทนบริษัทผู้ผลิต หรือ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ โดยปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินทางรังสี
2.2 บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมปรับปรุงแก้ไข หรือ เพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต
ปส.อว. ขอเน้นย้ำถึงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม พร้อมปฏิบัติภารกิจในการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี เพื่อให้คำปรึกษา รับแจ้งเหตุ และประสานความร่วมมืออย่างทันท่วงทีในทุกสถานการณ์ฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี ผ่านสายด่วน 1296 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เผยแพร่โดย : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม เบอร์โทรศัพท์ภายใน 1110 , 1120